อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Assciation of Southeast Asian Nations หรือ ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ(The Bangkok Declaration ) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก-เฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ได้ลงนามใน “ปฏิญญากรุงเทพฯ” (Bangkok Declaration) เพื่อจัดตั้งสมาคมความร่วมมือกันในการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม การพัฒนาวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศสมาชิก และการธำรงรักษาสันติภาพและความมั่นคง ในพื้นที่และเป็นการเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกอย่างสันติของระดับภูมิภาคของประเทศต่างๆ ในเอเชีย ในเวลาต่อมาได้มี บูรไนดารุสซาราม (เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 8 มกราคม 2527)สาธารณรัฐสังคมคมนิยมเวียดนาม (เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 28 กรกฎาคม 2538) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 กรกฎาคม 2540) สหภาพพม่า (เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 กรกฎาคม 2540) ราชอาณาจักรกัมพูชา (เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 30 เมษายน 2542) ตามลำดับทำให้อาเซียนมีสมาชิกครบ 10ประเทศ
วัตถุประสงค์หลัก
ปฏิญญากรุงเทพฯ ได้ระบุวัตถุประสงค์สำคัญ 7 ประการของการจัดตั้งอาเซียน ได้แก่
1. ส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ และการบริหาร
2. ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงส่วนภูมิภาค
3. เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจพัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค
4. ส่งเสริมให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี
5. ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในรูปของการฝึกอบรมและการวิจัย และส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
6. เพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม การขยายการค้า ตลอดจนการปรับปรุงการขนส่งและการคมนาคม
7. เสริมสร้างความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก องค์การ ความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่นๆ
และองค์การระหว่างประเทศ
ตลอดระยะเวลา กว่า 40ปีที่มีการก่อตั้งอาเซียน ถือว่าได้ประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมืองเเละความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาด้านสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งประเทศไทยได้รับ ประโยชน์อย่างมากจากความร่วมือต่างๆของอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์จากการที่ภูมิภาค เป็นเสถียรภาพและสันติภาพ อันเป็นผลจากกรอบความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความร่วมือด้านสังคมและ วัฒนธรรม ซึ่งถ้าหากไม่มีความร่วมมือเหล่านี้แล้ว คงเป็นการยากที่จะพัฒนาประเทศได้โดยลำพัง
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน
ครั้งที่
|
วันที่
|
ประเทศเจ้าภาพ
|
สถานที่จัดตั้งการประชุม
|
ครั้งที่ 1
|
23-24 กุมภาพันธ์ 2519
|
ประเทศอินโดนีเซีย
|
บาหลี
|
ครั้งที่ 2
|
4-5 สิงหาคม 2520
|
ประเทศมาเลเซีย
|
กัวลาลัมเปอร์
|
ครั้งที่ 3
|
14-15 ธันวาคม 2530
|
ประเทศฟิลิปปินส์
|
มะนิลา
|
ครั้งที่ 4
|
27-29 มกราคม 2535
|
ประเทศสิงคโปร์
|
สิงคโปร์
|
ครั้งที่ 5
|
14-15 ธันวาคม 2538
|
ประเทศไทย
|
กรุงเทพมหานคร
|
ครั้งที่ 6
|
15-16 ธันวาคม 2541
|
ประเทศเวียดนาม
|
ฮานอย
|
ครั้งที่ 7
|
5-6 พฤศจิกายน 2544
|
ประเทศบูรไนดารุสซาราม
|
บันดาร์เสรีเบกาวัน
|
ครั้งที่ 8
|
4-5 พฤศจิกายน 2545
|
ประเทศกัมพูชา
|
พนมเปญ
|
ครั้งที่ 9
|
7-8 ตุลาคม 2546
|
ประเทศอินโดนีเซีย
|
บาหลี
|
ครั้งที่ 10
|
29-30 พฤศจิกายน 2547
|
ประเทศลาว
|
เวียงจันทน์
|
ครั้งที่ 11
|
12?14 ธันวาคม 2548
|
ประเทศมาเลเซีย
|
กัวลาลัมเปอร์
|
ครั้งที่ 12
|
11?14 มกราคม 25501
|
ประเทศฟิลิปปินส์
|
เซบู
|
ครั้งที่ 13
|
18?22 พฤศจิกายน 2550
|
ประเทศสิงคโปร์
|
สิงคโปร์
|
ครั้งที่ 14
|
27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2552
10-11 เมษายน 2552 |
ประเทศไทย
|
ชะอำ, หัวหิน
พัทยา |
ครั้งที่ 15
|
23-25 ตุลาคม 2552
|
ประเทศไทย
|
ชะอำ, หัวหิน
|
ครั้งที่
|
8-9 เมษายน 2553
|
ประเทศเวียดนาม
|
ฮานอย
|
ที่มา : http://www.thaimaster.info/pornpilai/wannisa/asean/asean_info.html#1 วันที่ 27 ธันวาคม 2555
สุดยอดเลยค่า
ตอบลบ